Spices
ความลับเครื่องเทศไทย

สำรวจเส้นทางความอร่อย ที่ความหลากหลายของรสชาติหลอมรวมกันจนทำให้อาหารไทยเป็นอาหารที่ผู้คนทั่วโลกต่างหลงรัก

แก่นแท้อาหารไทย

อาหารไทยโด่งดังไปทั่วโลก ด้วยรสชาติเฉพาะตัวจากการผสมผสานความหวาน เปรี้ยว เค็ม และเผ็ดเข้าไว้ด้วย อาวุธลับของความลงตัวนี้คือเครื่องเทศและสมุนไพรที่เป็นหัวใจหลักของครัวไทย เครื่องเทศรสจัดจ้านเหล่านี้ ตั้งแต่พริกจินดาไปจนถึงใบมะกรูดที่เป็นที่นิยมในครัวเรือนทั่วโลกคือองค์ประกอบหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์อันรุ่มรวยของการค้า ภูมิปัญญา และวิวัฒนาการของการทำอาหาร เครื่องเทศเหล่านี้ยังมีบทบาทสำคัญในฐานะสมุนไพรและการรักษาแบบองค์รวมด้วย

Juicy Moo Kho Krathiam at Amber, InterContinental Koh Samui Resort

อาหารไทยที่จัดเต็มด้วยเครื่องเทศเหล่านี้ พบได้ทั้งในเมนูในชีวิตประจำวันและอาหารระดับไฟน์ไดนิ่ง เช่น ห้องอาหาร Amber ใน InterContinental Koh Samui Resort ที่ขึ้นชื่อในด้านการนำเสนออาหารไทยดั้งเดิมในแบบพิถีพิถัน จานเด็ดต้องยกให้หมูโคกระเทียมที่ผสมผสานเครื่องเทศเข้ากับหมูหมักกระเทียม พริกไทยขาว และน้ำตาลปี๊ปเล็กน้อย เพื่อให้ได้รสอูมามิ และเข้ากับซอสพริกไทยที่เสิร์ฟคู่กันอย่างลงตัว

Khao Yum Pak Tai at RHOY RHOY! in Garrya Tongsai Bay Samui

ที่ห้องอาหาร หรอย หรอย! ในโรงแรมการ์รียา ท้องทราย เบย์​ สมุย ข้าวยำปักษ์ใต้คือเมนูที่ทุกคนต้องเรียกหา เพราะอาหารจานนี้สะท้อนรสชาติและสีสันของเครื่องเทศในอาหารใต้ในทุกองค์ประกอบตั้งแต่สมุนไพรหั่นฝอย ผักสดกรอบ มะพร้าวคั่ว ไปจนถึงข้าวหอมมะลิที่มีสีสันน่ารับประทานจากดอกอัญชัน จิตวิญญาณของเมนูนี้อยู่ตรงน้ำบูดูที่หมักและปรุงรสด้วยตะไคร้ ใบมะกรูดและพริก ซึ่งเชื่อมโยงทุกส่วนผสมให้กลายเป็นการเริงระบำของรสชาติ

Bucha Gallery’s Khua Kling Gai

ฝังรากในรสชาติ

สุภาษิตไทยที่ว่า “ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว” นั้นไม่เคยเกินจริง ตั้งแต่ครั้งอดีต ผืนดินและแหล่งน้ำอันอุดมสมบูรณ์มีอิทธิพลอย่างมากต่ออาหารไทยแบบดั้งเดิมที่เน้นความเรียบง่าย ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศ จึงได้รับอิทธิพลด้านอาหารจากเปอร์เซีย อินเดีย โปรตุเกส จีน รวมถึงเครื่องเทศและสมุนไพรจากแถบมลายู การแลกเปลี่ยนด้านการค้าเหล่านี้นำมาซึ่งวัตถุดิบและเทคนิคใหม่ๆ ที่มีอิทธิพลต่ออาหารไทย

ปัจจุบัน การผสมผสานทางรสชาติ ยังคงดำเนินต่อไป ร้าน Bucha Gallery & Restaurant ในภูเก็ต ที่นำเสนอรสชาติไทยแท้ๆ หนึ่งในจานเด่นของที่นี่อย่างคั่วกลิ้งไก่ สะท้อนรสชาติร้อนแรงที่เป็นหัวใจหลักของอาหารใต้ แถมยังอุดมไปด้วยขมิ้นสด พริกจินดา และใบมะกรูด ซึ่งมาพร้อมกลิ่นหอมและความเผ็ดร้อนแรง รูปแบบการนำเสนอของร้านยังเปรียบเสมือนงานศิลปะที่ผสมผสานมรดกไทยเข้ากับสุนทรียะยุคใหม่ เป็นตัวอย่างของการปรับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ให้กลายเป็นประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ทั้งตื่นตาตื่นใจและมีรสชาติยอดเยี่ยม

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้อาหารไทยมีเอกลักษณ์อย่างแท้จริงคือวิธีการผสมผสานอิทธิพลจากต่างประเทศเข้ากับรสชาติและประเพณีท้องถิ่นได้อย่างลงตัว

Goong Phad Kapi Sator, a signature dish at Kapi Sator, a Michelin<br />
Bib Gourmand restaurant in Samui

อุดมด้วยประโยชน์


เครื่องเทศและสมุนไพร คือหัวใจหลักของอาหารไทยที่มีทั้งกลิ่นหอม รสร้อนแรง และบางครั้งก็เผ็ดจัดที่ได้จากพืชหลากหลายชนิด นอกจากรสชาติแล้ว เครื่องเทศยังใช้ในการถนอมอาหาร สร้างสีสัน และขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์จากเนื้อสัตว์และอาหารทะเล

หากจะยกตัวอย่างอาหารไทยที่ผสมผสานรสชาติและความร้อนแรงของเครื่องเทศและสมุนไพรได้กลมกล่อมที่สุด ต้องยกอาหารใต้ที่เกาะสมุย ร้านอาหาร กะปิ สะตอ ดึงดูดนักชิมด้วยปรัชญาดังกล่าว ชื่อของร้านสื่อให้เข้าใจได้เลยว่า อาหารในพื้นที่ล้วนได้รับอิทธิพลจาก “กะปิ” และ “สะตอ” ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญของการทำอาหารในภูมิภาคนี้ ห้ามพลาดจานเด่นอย่าง กุ้งผัดกะปิสะตอ ที่นำกุ้งสดตัวโตมาผัดคั่วกับกะปิหอมและสะตอจนได้รสชาติเข้มข้น

อาหารไทยบางชนิดใช้สมุนไพรหลายชนิดผสมกัน ซึ่งอาจมากถึงห้าหรือหกชนิด แสดงถึงความเชี่ยวชาญของเหล่าชาวครัวในการแยกรสชาติและกลิ่นเพื่อสร้างเมนูที่ทั้งอร่อยและสมดุลครบทุกด้าน เครื่องเทศและสมุนไพรยังเป็นที่รู้จักในเรื่องของประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ จึงไม่แปลกใจเลยที่อาหารไทยได้รับการขนานนามว่าเป็น “ยาที่มีรสชาติเอร็ดอร่อยที่สุด”

Spices

Say It Like a Local: A Quick Pronunciation Guide

  • GAENG SOM PLA YOD MAPHRAO (แกงส้มปลายอดมะพร้าว, PRONOUNCED:
    GÂENG SÔM PLAA YÔT MÁ-PRÂAO)
  • GOONG PHAD KAPI SATOR (กุ้งผัดกะปิสะตอ, PRONOUNCED: GÛNG PÀT GÀ-PÌ SÀ-DTO)
  • KHAO SOI GAI (ข้าวซอยไก่, PRONOUNCED: KHÂAO SOI GÀI)
  • KHAO YUM PAK TAI (ข้ายำปักษ์ใต้, PRONOUNCED: KHÂAO YAM PÀK TÂI)
  • KHUA KLING GAI (คั่วกลิ้งไก่, PRONOUNCED: KHÛA GLÎNG GÀI)
  • LAAB (ลาบ, PRONOUNCED: LÂAB)
  • MASSAMAN (มัสมั่น,​ PRONOUNCED: MÁT-SÀ-MÀN)
  • MOO KHO KRATHIAM (หมูโคกระเทียม, PRONOUNCED:
    MǓU KHO GRÀ-THIAM)
  • PHANAENG (พะแนง, PRONOUNCED: PHÁ-NÆENG)
  • PLAA PLA (พล่าปลา, PRONOUNCED: PHLAÀ PLÁA)
  • TOM YUM GOONG (ต้มยำกุ้ง, PRONOUNCED:
    TÔM YAM GÛNG)
Paste Bangkok’s Smoky Southern Yellow Curry<br />
with Blue Crab & Thai Samphire transforms tradition into fine dining

เครื่องเทศไทยในเวทีโลก

สมุนไพรและเครื่องเทศไทยมีอิทธิพลต่อการทำอาหารอย่างมาก ซึ่งร้านอาหารและเชฟทั่วโลกได้เล็งเห็นสรรพคุณและหยิบยกมาใช้ในเมนูต่างๆ หนึ่งในร้านที่โดดเด่น คือ Paste Bangkok จากการสร้างสรรค์รสชาติไทยแบบดั้งเดิมให้ดูทันสมัยขึ้น อย่างแกงปูปักษ์ใต้รมควันใส่ปูม้าและใบชะคราม ที่แต่งเติมแกงเหลืองแบบดั้งเดิมด้วยกลิ่นจากมะพร้าวคั่วและสมุนไพรอย่างใบชะคราม ช่วยเพิ่มรสเค็มตัดกับความหวานจากเนื้อปู ในขณะที่ตัวแกงยังคงให้ความเผ็ดร้อนที่เป็นซิกเนเจอร์ของอาหารใต้

นอกจากนี้ โรงเรียนสอนทำอาหารไทยทั่วโลกยังส่งเสริมให้ใช้วัตถุดิบต้นตำรับซึ่งช่วยรักษารสชาติแบบดั้งเดิมไว้ได้ อีกทั้งความนิยมอาหารมังสวิรัติที่เพิ่มขึ้นทำให้เครื่องเทศไทยได้รับความนิยมมากขึ้นด้วย ความนิยมนี้ยังสามารถต่อยอดไปสู่ครัวเรือนทั่วโลกเพราะทุกวันนี้ใครๆ ก็สามารถทำเมนูยอดฮิตอย่างมัสมั่น ต้มยำกุ้ง ข้าวซอย และพะแนง ได้แค่เพียงมีซอสหรือพริกแกงสำเร็จรูป

Phensiri’s Gaeng Som Pla Yod Maphrao delivers authentic Southern Thai flavour

ออร์แกนิก ยั่งยืน ทรงพลัง

ในภาวะโลกร้อน การเลือกวัตถุดิบที่ยั่งยืนและการเพาะปลูกตามจริยธรรมมีความสำคัญมากขึ้น สอดคล้องกับเทรนด์เกษตรอินทรีย์ในประเทศไทย ที่ช่วยรักษารสชาติและคุณภาพของเครื่องเทศที่เป็นหัวใจของตำรับไทย

ที่ร้านอาหารเพ็ญศิริ เกาะสมุย ความยั่งยืนคือหลักการสำคัญในการสร้างสรรค์เมนูต่างๆ ร้านอาหารชื่อดังแห่งนี้เลือกใช้เฉพาะวัตถุดิบสดใหม่ ผลผลิตตามฤดูกาล และส่วนผสมในท้องถิ่น จะเห็นได้จากเมนูเด่นอย่างแกงส้มปลายอดมะพร้าว ที่น้ำแกงใต้รสเปรี้ยวจากขมิ้น มะขามเปียก และตะไคร้ เป็นเครื่องหมายของรสชาติและความยั่งยืน น้ำแกงรสเปรี้ยวยังเข้ากันได้ดีกับความสดฉ่ำของปลาท้องถิ่นและให้เนื้อสัมผัสที่พิเศษ นอกจากรสชาติลงตัวระหว่างเปรี้ยว เผ็ด และหวานเล็กน้อย อาหารจานนี้ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของร้านในการเลือกใช้วัตถุดิบที่ยั่งยืน พร้อมกับใช้ส่วนผสมที่ช่วยลดการอักเสบอย่างขมิ้นและมะขามเปียก ทำให้เมนูนี้ช่วยบำรุงร่างกายและรักษ์โลกไปพร้อมๆ กัน

Tom Yum Cappuccino at Sa-Nga Restaurant — a bold fusion<br />
of tradition<br />
and innovation

รสชาติแบบไทย ทุกที่ทั่วโลก

เครื่องเทศและสมุนไพรไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และนำหัวใจหลักของการทำอาหารไทยไปสู่เวทีนานาชาติ ซึ่งเป็นตัวแทนทางวัฒนธรรมและสานต่อภูมิปัญญาด้านการทำอาหารอันล้ำค่าของไทย ร้านอาหารชั้นนำหลากหลายร้านจากทั่วประเทศต่างร่วมมือกันสืบสานมรดกแห่งศิลปะการทำอาหารพร้อมนำเสนอรสชาติและประสบการณ์ที่คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์และคุณค่าแห่งวัฒนธรรม เช่น ร้านอาหารไทยร่วมสมัย Sa-Nga ที่ Centara Reserve Samui ได้พัฒนารสชาติแบบดั้งเดิมให้ร่วมสมัยมากขึ้น จนได้เมนูน่าสนใจที่ผสมผสานระหว่างประเพณีกับนวัตกรรมอย่างต้มยำ กุ้งคาปุชชิโน ที่เปลี่ยนความเผ็ดร้อนและรสเปรี้ยวของต้มยำให้กลายเป็นเนื้อครีมฟูเหมือนฟองคาปุชชิโน หัวใจของเมนูคือ น้ำต้มยำที่ให้รสชาติจากตะไคร้ ข่า ใบมะกรูด และน้ำพริกเผา ออกมาเป็นความกลมกล่อมที่ลงตัว พร้อมดึงรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์จากวัตถุดิบหลักอย่างกุ้งลายเสือสดใหม่ มอบความหวานฉ่ำจากธรรมชาติ ผสานกับความหวานละมุนจากมะพร้าวอ่อน สร้างสรรค์รสชาติที่แปลกใหม่และลงตัวอย่างไร้ที่ติ

Khao Soi Gai, the iconic Northern Thai dish, served at 22 Steps Craft House at Hotel Indigo Bangkok Wireless Road

ส่วน 22 สเต็ปส์ คราฟต์ เฮ้าส์ ที่ โรงแรมอินดิโก้กรุงเทพ ถนนวิทยุ ขอเน้นความออริจินัลของอาหารเหนือ ด้วยการยกระดับข้าวซอยไก่ให้มีความน่าสนใจมากขึ้น ทั้งจากเนื้อไก่ตุ๋นในแกงกะทิหอมๆ พร้อมกับขมิ้น ข่า และเครื่องเทศที่ช่วยให้รสชาติซับซ้อนยิ่งขึ้น น้ำแกงเองมีความครีมมี่และหอม ซึ่งเข้ากันได้ดีกับเส้นบะหมี่ไข่เนื้อนุ่ม ขณะที่หมี่กรอบสีเหลืองทองนำความกรุบกรอบมาผสมผสานเข้ากับตัวข้าวซอย ยิ่งมีผักดอง หอมแดง มะนาว และน้ำมันพริกคั่ว ยิ่งช่วยปรับรสชาติระหว่างความเปรี้ยวและความเผ็ดได้อย่างกลมกล่อม

Boho Thai Lifestyle Café<br />
in Kimpton<br />
Kitalay Samui

รสชาติที่ลงตัว

ปฏิสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมอาหารไทยให้กลายเป็นหนึ่งในอาหารที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก

การผสมผสานรสชาติของอาหารไทยยังคงได้รับการตีความใหม่อยู่เสมอ และบางครั้งก็เกิดขึ้นในรูปแบบที่ไม่คาดคิด เช่นที่ Boho Thai Lifestyle Café ที่ Kimpton Kitalay Samui เมนูแกงมัสมั่นเนื้อได้ผสมผสานสูตรที่ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นเข้ากับความร่วมสมัย ทั้งจากเนื้อตุ๋นที่อุดมไปด้วยเครื่องเทศที่คัดสรรมาอย่างดี น้ำกะทิเนื้อนุ่มผสมกับถั่วลิสงคั่ว มันฝรั่ง และแครอท ที่ช่วยสร้างความซับซ้อนของรสชาติ ทุกคำล้วนแสดงถึงแก่นแท้ของการทำอาหารไทยที่ตีความจากประสบการณ์ของเชฟ แสดงถึงความสามารถในการรักษารากฐานของรสชาติไปพร้อมๆ กับการพัฒนานวัตกรรมอาหารไทยอย่างต่อเนื่อง

Koh Thai Kitchen at Four Seasons Resort Koh Samui
Koh Thai Kitchen at Four Seasons Resort Koh Samui
Koh Thai Kitchen at Four Seasons Resort Koh Samui

ส่วน Koh Thai Kitchen ที่ Four Seasons Resort Koh Samui นอกจากจะตั้งอยู่บนเนินเขาที่มีวิวทิวทัศน์อันงดงามของอ่าวไทยแล้ว ยังมีเมนูอาหารที่น่าสนใจจากการรังสรรค์ของเชฟสุมาลี ขันเพชร หรือเชฟเจี๊ยบ ผู้มุ่งมั่นที่จะรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของรสชาติอาหารใต้ผ่านส่วนผสมสดใหม่และเทคนิคที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน เมนูเด่นๆ ของเชฟเจี๊ยบนำเสนอรสชาติที่เข้มข้น พร้อมกับความทันสมัยอย่างลาบทูน่า ที่เป็นการตีความอาหารไทยแบบดั้งเดิม ผ่านการนำปลาทูน่ามาผสมกับสมุนไพรไทย ข้าวคั่ว และผงพริก ส่งมอบความเผ็ดร้อน ความกรอบ และรสเปรี้ยวสดชื่น ขณะที่แกงมัสมั่นเนื้อก็หอมกรุ่นจากเครื่องเทศและให้รสชาติเข้มข้นสไตล์อาหารใต้แท้ๆ ส่วนเมนูซิกเนเจอร์อย่างพล่าปลา ก็เป็นการผสมผสานความกรุบกรอบของปลาทะเลทอดกับความหอมจากตะไคร้ หอมแดง และสมุนไพร

อาหารไทยยังคงพัฒนาไปข้างหน้า แต่อัตลักษณ์ที่ไร้กาลเวลาก็ยังคงดำรงอยู่ การผสมผสานของรสชาติและกลิ่นหอมที่สืบทอดมาเป็นเวลานานหลายศตวรรษยังคงดึงดูดใจทั้งเชฟและนักชิมอาหารทั่วโลก