green tourism
เที่ยวอย่างไรให้ดีต่อใจ ดีต่อโลก

จะดีแค่ไหนถ้าการท่องเที่ยวไม่เพียงแต่นำมาซึ่งประสบการณ์น่าประทับใจ แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อให้ความสวยงามของธรรมชาติยังคงอยู่ต่อและส่งความประทับใจไปยังคนรุ่นหลัง

แก่นของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ไม่ได้หมายความว่านักเดินทางต้องทำทุกอย่างตามวิถี “เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” หรือหมกมุ่นแค่เรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่เป็นแนวคิดใหม่ของการเดินทางที่ใส่ใจโลกเพื่อให้สถานที่ๆ เราไปเยือนยังคงความงดงามไว้เช่นเดิมหรืออาจจะงดงามขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ

เราทุกคนต่างอยากออกผจญภัยไปพร้อมกับเก็บเกี่ยวช่วงเวลาสำคัญ แน่นอนว่า เราก็อยากให้สถานที่ๆ เราประทับใจคงอยู่ให้คนรุ่นต่อไปได้สัมผัสซึ่งคุณก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งที่เติมเต็มความฝันแห่งการเดินทางให้กับคนรุ่นหลังได้โดยไม่ต้องลดความสะดวกสบายหรือความตื่นเต้นลง แค่เพียงเลือก “ด้วยใจ”​ตั้งแต่ที่พัก ไปจนถึงวิธีที่เดินทางจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง

 

ก่อนจะเก็บกระเป๋ามุ่งหน้าไปสนามบิน ลองหยุดคิดสักนิด เพราะนั่นไม่เพียงแค่ช่วยชุมชนท้องถิ่น แต่ยังทำให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ที่ลึกซึ้งมากขึ้น เลือกที่พักที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน เช่น ที่พักที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เลือกใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่น หรือมีฟาร์มผักของตัวเอง ทุกครั้งที่คุณเดินทาง อย่าลืมแพ็กกระเป๋าให้น้อยที่สุดเพราะน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นหมายถึงการใช้เชื้อเพลิงที่มากขึ้น

วิธีเดินทางแบบอื่นๆ ทั้งการเดินเท้า ขี่จักรยาน ใช้พาหนะของทางโรงแรมหรือแม้แต่ลองตุ๊กๆ หรือแท็กซี่ไฟฟ้าก็เป็นทางเลือกที่สนุกไปอีกแบบ เพราะไม่เพียงช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ แต่ยังเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสมุมมองใหม่ๆ

เมื่อถึงที่หมายแล้ว ลองปล่อยใจ และลดความรีบเร่งลดสักนิด เรียนรู้และทำความเข้าใจกับสถานที่นั้นๆ อาจจะลองเดิมชมเมืองหรือปั่นจักรยานเพื่อเข้าถึงเสน่ห์ของชุมชนได้อย่างเต็มที่ อย่าลืมชิมอาหารท้องถิ่นและอาหารตามฤดูกาล เพราะนอกจากจะสดใหม่กว่าแล้ว ยังสนับสนุนเกษตรกรและลดระยะทางขนส่งอาหารได้ช่วยสิ่งแวดล้อมไปในตัว

และที่สำคัญ ต้องเคารพสถานที่ๆ ไปเยือน ทั้งการพกขวดน้ำแบบเติมน้ำได้ หลีกเลี่ยงการใช้พลาสติกที่ไม่จำเป็น และเคารพขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมท้องถิ่น เรื่องเหล่านี้อาจเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับคุณ แต่ถือเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่สำหรับโลก

การเดินทางแบบไม่เร่งรีบ ทำให้ได้ใช้เวลากับสถานที่หนึ่งให้นานขึ้น จะช่วยให้เราได้ซึมซับจังหวะชีวิต ผู้คน และเสน่ห์เฉพาะตัวของสถานที่นั้นๆ ซึ่งการท่องเที่ยวสไตล์นี้ไม่เพียงแค่ลดภาระต่อทรัพยากรท้องถิ่น แต่ยังทำให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ที่ลึกซึ้งและน่าจดจำยิ่งขึ้น

การเดินทางอย่างยั่งยืนไม่ใช่เรื่องของความสมบูรณ์แบบ แต่เป็นความตั้งใจที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการรักษาความงดงามของโลกใบนี้ได้ การเลือกอย่างใส่ใจ แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ก็สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้

sukhothai ancient temple
ท่องเที่ยวด้วยจิตสำนึก

ในทุกการเดินทาง เราคือคนตัดสินใจว่าจะก้าวไปทางไหน หากคุณต้องการเดินทางด้วยจิตสำนึกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลองเอาเคล็ดลับเหล่านี้ไปเป็นแนวทางเพื่อค้นหาทางเลือกที่ช่วยลดคาร์บอนไปพร้อมๆ กับการผจญภัยที่สนุกสนานและยั่งยืนยิ่งขึ้น

Marasca Samui, a casual-luxury retreat on Chaweng Beach, redefines eco-conscious travel
พักผ่อนอย่างใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม

ที่พักที่ผสมผสานความสะดวกสบายเข้ากับความใส่ใจสิ่งแวดล้อมไม่เพียงแต่ช่วยให้การเดินทางของคุณยั่งยืนขึ้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้นักท่องเที่ยวคนอื่นๆ หันมาหาทางเลือกที่เป็นมิตรต่อโลกมากขึ้นอีกด้วย โรงแรมและรีสอร์ตจำนวนมากในปัจจุบัน กำลังนำแนวทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาใช้ พร้อมกับยังคงไว้ซึ่งความหรูหราและการพักผ่อนที่เหนือระดับ ที่พักเหล่านี้กำลังสร้างนิยามการเดินทางอย่างยั่งยืนแบบใหม่ ทั้งการออกแบบอาคารที่เน้นประหยัดพลังงาน ใช้วัสดุจากแหล่งท้องถิ่น และมอบประสบการณ์ที่เติมเต็มจิตวิญญาณอนุรักษ์ จะเห็นว่ารีสอร์ตริมทะเลหลายๆ แห่งได้เชิญชวนแขกที่มาเข้าพักให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมอนุรักษ์ทางทะเล เช่น การฟื้นฟูปะการังและการดำน้ำแบบยั่งยืน ซึ่งช่วยให้ผู้เข้าพักได้เชื่อมโยงกับธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง การค้นหาที่พักที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันก็ง่ายขึ้นเพราะแพลตฟอร์มสำหรับจองที่พักหลายแห่งมีตัวกรองด้านสิ่งแวดล้อมที่ช่วยให้ผู้เดินทางสามารถเลือกที่พักที่เด่นด้านความยั่งยืนได้สะดวกขึ้น ลองมองหาหมวดหมู่อย่าง “ที่พักนอกกระแส” หรือ “ดีเด่นด้านความยั่งยืน”​ หรือโรงแรมที่ได้รับการรับรองมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมที่ตรงกับความชอบของผู้เข้าพัก นอกจากนี้ มีเอเจนซี่ออนไลน์หลายแห่งที่โปรโมตที่พักที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะ ซึ่งช่วยนำเสนอตัวเลือกที่สนับสนุนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้ดียิ่งขึ้น

Tradition in motion—a Karen woman weaves intricate shawls in a Northern Thai village
ใช้จ่ายให้เป็นประโยชน์

การสนับสนุนธุรกิจท้องถิ่นช่วยให้การเดินทางมีความยั่งยืนและมีความหมายมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ๆ พึ่งพาการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าสไตล์ครอบครัว แผงขายอาหารริมทาง และสินค้าหัตถกรรมจากช่างฝีมือท้องถิ่น รวมทั้งแสวงหาประสบการณ์ท้องถิ่นแบบแท้ๆ จากบริการทัวร์ที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน เช่น การเรียนรู้วัฒนธรรมกาแฟในเชียงใหม่ หรือการทำนาแบบดั้งเดิมที่หลวงพระบาง ความหรูหราที่แท้จริง คือการเชื่อมโยงกับผู้คนและวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสความนุ่มของผ้าทอมือที่หยิบมาพันได้ทุกเมื่อ การเข้าร่วมเวิร์กช็อปงานฝีมือ หรือการชิมอาหารที่ปรุงด้วยภูมิปัญญาจากรุ่นสู่รุ่นในร้านอาหารของครอบครัว สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงเติมเต็มการเดินทางของคุณให้ลึกซึ้งขึ้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่นและรักษามรดกทางวัฒนธรรมอีกด้วย นอกจากนี้ การท่องเที่ยวอย่างมีจิตสำนึกยังครอบคลุมถึงความเป็นอยู่ของสัตว์ป่า นี่เป็นโอกาสให้เราได้สนับสนุนสถานพักพิงที่ดูแลช้างและสัตว์อื่นๆ ซึ่งทำให้มั่นใจว่าการไปเยือนของคุณมีความหมาย

say no to plastic
แค่ปฏิเสธก็เปลี่ยนโลกได้

หลักการ 6R คือหัวใจของการเดินทางอย่างยั่งยืน ซึ่งแต่ละข้อเป็นวิธีง่ายๆ แต่ทรงพลังในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ส่วนใหญ่มักคุ้นเคยกับห้าข้อแรกดีอยู่แล้ว อันได้แก่ ลดการใช้ (Reduce) ใช้ซ้ำ (Reuse) คิดทบทวน (Rethink) รีไซเคิล (Recycle) และซ่อมแซม (Repair) แต่สิ่งที่สร้างอิมแพ็กได้ทันที คือ ข้อที่หก “ปฏิเสธ” (Refuse) ในโลกที่เต็มไปด้วยการบริโภคเกินความจำเป็น เราต้องลดวัฏจักรของสินค้าใช้แล้วทิ้ง ปฏิเสธพลาสติกใช้ครั้งเดียวอย่างรองเท้าแตะโรงแรมและขวดพลาสติกขนาดเล็กในห้องน้ำ เลือกใช้ของทดแทนที่นำกลับมาใช้ได้ เช่น ขวดน้ำแบบเติมได้ และเลือกอย่างมีสติเพื่อสนับสนุนแนวทางที่ยั่งยืน

Exploring the city the eco-friendly way—on foot and by public transport
ออกไปข้างนอก แล้วปิดเครื่องบ้าง

การออกไปข้างนอกไม่เพียงช่วยให้เราเชื่อมกับธรรมชาติ แต่ยังทำให้เราตระหนักว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ การได้สูดกลิ่นอายของธรรมชาตินั้นช่วยปลอบประโลมจิตใจของเรา โดยงานวิจัยทางประสาทวิทยาค้นพบว่าการได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติช่วยให้เส้นประสาทวากัสซึ่งควบคุมการหายใจ การย่อยอาหาร และอัตราการเต้นของหัวใจ ทำงานได้อย่างสมดุล นอกจากนี้ เวลาเราออกไปสนุกสนานกลางแจ้ง เรายังลดการใช้พลังงานจากเครื่องปรับอากาศ ลดการใช้ไฟฟ้า และส่งเสริมความยั่งยืนไปพร้อมกัน หากต้องการสนับสนุนธรรมชาติอย่างจริงจัง ลองช่วยเหลืออุทยานแห่งชาติที่ปกป้องพื้นที่สีเขียว ซึ่งมีอยู่ในกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศทั่วโลก และเมื่อกลับถึงบ้าน แค่เปลี่ยนพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ อย่างใส่เสื้อผ้าหลายชั้นแทนการเปิดฮีตเตอร์ เปิดหน้าต่างรับลมแทนการเปิดแอร์ และปิดไฟเมื่อไม่ใช้งาน ก็สามารถสร้างผลดีต่อโลกได้

Reconnect with nature
เดินให้มาก เดินทางให้สมาร์ท

ทุกก้าวและทุกการเดินทางมีบทบาทในการอนุรักษ์โลก การเดินและใช้ระบบขนส่งสาธารณะเป็นวิธีที่ง่ายแต่ทรงพลังในการเดินทางอย่างยั่งยืนพร้อมกับสร้างความเชื่อมโยงกับจุดหมายปลายทางของคุณได้อย่างลึกซึ้ง ปัจจุบัน หลายเมืองทั่วโลกกำลังพัฒนาเส้นทางเดินเท้าและเพิ่มพื้นที่สีเขียวเพื่อให้การเดินสำรวจเมืองเป็นประสบการณ์ที่น่ารื่นรมย์ยิ่งขึ้น บางครั้งการเดินอาจเร็วกว่าการใช้ขนส่งสาธารณะเมื่อนึกถึงเวลารอและเปลี่ยนเส้นทางและยังเป็นโอกาสให้ชมเมืองพร้อมออกกำลังกายไปในตัว สำหรับการเดินทางระยะไกล ระบบขนส่งสาธารณะเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันช่วยนำทางที่ทำให้คุณสามารถสำรวจเมืองยอดนิยมอย่างกรุงเทพฯ และฮ่องกงได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมลดคาร์บอนจากการเดินทางไปในตัว

bangsaen, chonburi
เดินทางช้าลง อยู่ให้นานขึ้น

เมื่อพูดถึงการเดินทาง ให้คิดถึงคุณภาพมากกว่าปริมาณ ใช้เวลาที่จุดหมายปลายให้มากขึ้น การท่องเที่ยวแบบ “ค่อยเป็นค่อยไป” ไม่เพียงลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการเดินทางบ่อยๆ แต่ยังช่วยให้คุณเชื่อมโยงกับสถานที่ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ถ้ามีเวลา ลองขยายระยะเวลาการเดินทางเพื่อรวมการทำงานเข้ากับการพักผ่อน หรือเปลี่ยนจากการเดินทางสั้นๆ หลายครั้งเป็นการเข้าพักระยะยาวเพื่อซึมซับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตท้องถิ่นได้เต็มอิ่มยิ่งขึ้น การเดินทางสไตล์นี้ยังเปิดโอกาสให้คุณได้ค้นพบมุมลับๆ และเรื่องราวที่ยังไม่ถูกบอกเล่าผ่านไกด์ท้องถิ่นที่สามารถแชร์แง่มุมที่ไม่เหมือนใคร ลองเข้าร่วมเวิร์กช็อปกิจกรรมสร้างสรรค์ ทัวร์ท้องถิ่นหรือกิจกรรมพิเศษอื่นๆ เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางให้มีความหมาย การเดินทางแบบค่อยเป็นค่อยไปเป็นวิธีหนึ่งที่เราจะได้อนุรักษ์ธรรมชาติและช่วยให้เราได้สัมผัสความงามของโลกในแบบที่ลึกซึ้งและคุ้มค่ามากขึ้น

eat local
กินแบบท้องถิ่น

ตัวเลือกในการรับประทานอาหารก็มีผลต่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเช่นกัน การกินอาหารที่มาจากผลผลิตในท้องถิ่นและตามฤดูกาล หรือการเลือกเมนูมังสวิรัติ ช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกพร้อมกับให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละภูมิภาค อันที่จริง ไม่จำเป็นต้องเป็นวีแกนแบบเต็มตัว แค่ขอให้เปิดใจกับอาหารแพลนต์เบส โดยเฉพาะในพื้นที่ๆ ขึ้นชื่อเรื่องอาหารมัสวิรัติเพราะสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการทำลายป่าได้ นอกจากนี้ อาหารท้องถิ่นยังช่วยลด “ฟู้ดไมล์” หรือลดการปล่อยก๊าซจากการขนส่งวัตถุดิบจากที่ห่างไกล นอกจากนี้ การสนับสนุนเกษตรกรและผู้ผลิตในท้องถิ่นไม่เพียงเป็นผลดีต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจของชุมชนด้วย